วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เตรียมสอบ ป.1- วิชาวิทยาศาสตร์ - บทที่ 6 ดิน (สรุปเนื้อหา)

เตรียมสอบ ป.1- วิชาวิทยาศาสตร์ - บทที่ 6 ดิน (สรุปเนื้อหา)

Download - เนื้อหา




บทที่ 6 ดินบ้านเรา 



สรุปเนื้อหา  




     ดิน เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดจากหินที่แตกจนกลายเป็นเศษผงเล็ก ๆ ซึ่งในหินมีแร่ธาตุต่าง ๆ อยู่ ผสมคลุกเคล้ากับดินทรียวัตถุ ซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อย ผุพัง ดินอยู่บนผิวโลก และมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ มนุษย์และสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้รับประโยชน์จากดิน เพราะดินเป็นแหล่งผลิตปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค นอกจากนี้ใต้แผ่นดินที่อยู่ลึกลงไปมนุษย์ยังนำแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ แก๊ส และน้ำมันปิโตรเลียม มาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ได้

     การเกิดดิน และส่วนประกอบของดิน
     ดินเกิดจากการแตกหักผุพังของหินและแร่ธาตุเป็นขนาดเล็ก ๆ ผสมกับอินทรียวัตถุ โดยมีปัจจัยต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น ดิน ฟ้า อากาศ ลม ฝน แสงแดด แผ่นดินไหว กระแสน้ำ ธารน้ำแข็ง ทำให้เกิดการแตก พังทลาย และผุกร่อนของหิน จากนั้นมีการผสมคลุกเคล้ากับอินทรียวัตถุ เช่น ซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยผุพังจากการย่อยสลายของจุลินทรีย์ ทำให้เกิดเป็นดินในที่สุด ดินในที่ต่าง ๆ มีลักษณะแตกต่างกัน เพราะมีต้นกำเนิดแตกต่างกัน

     ส่วนประกอบของดิน มีดังนี้
     1) อนินทรียวัตถุ เช่น แร่และหินที่แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่สลายตัวโดยกระบวนการกัดกร่อนทับถมกัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเป็นธาตุอาหารในการเจริญเติบโตของพืช และเป็นส่วนประกอบที่มีมากที่สุดในดิน
     2) อินทรียวัตถุ เช่น ส่วนที่เกิดจากการเน่าเปื่อย ผุพัง หรือการสลายตัวของซากพืช และซากสัตว์ที่ทับถมอยู่บนดิน อินทรียวัตถุก็เป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช และมีหน้าที่ช่วยให้ดินมีความร่วนซุย และอุ้มน้ำได้ดียิ่งขึ้น
     3) น้ำ ในดิน สามารถพบอยู่ในช่องระหว่างเม็ดดิน หรือเนื้อดิน ซึ่งได้มาจากน้ำฝน หรือน้ำใต้ดินซึมขึ้นมา น้ำในดินมีหน้าที่ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ น้ำยังทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายแร่ธาตุในดิน ซึ่งช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุของพืชด้วย
     4) อากาศ สามารถพบได้ในช่องว่างระหว่างเม็ดดิน ซึ่งเรียกว่า ความพรุน แก๊สที่พบโดยทั่วไปในดิน คือ ในโตรเจน ออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นส่วนใหญ่

     ชนิดของดิน
     เนื่องจากดินมีส่วนประกอบหลายอย่าง จึงทำให้เนื้อดินมีความแตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งดินออกเป็น 3 ชนิด คือ ดินเหนียว ดินทราย และดินร่วน ซึ่งดินเหล่านี้มีสมบัติและลักษณะแตกต่างกันไปตามชนิด จึงสามารถนำดินแต่ละชนิดไปใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกันด้วย

     ดินเหนียว
     ดินเหนียว เป็นดินที่มีเนื้อดินขนาดเล็กละเอียดมากที่สุด เมื่อมีน้ำขัง จะแทรกลงไปในเนื้อดินได้ยากจึงระบายน้ำและอากาศไม่ดี จับยึดและแลกเปลี่ยนธาตุอาหารพืชได้สูง เหมาะสำหรับทำนาปลูกข้าว เพราะเก็บน้ำได้นาน ดินเหนียวถ้าเปียกน้ำแล้วมีความยืดหยุ่นอาจปั้นเป็นก้อน หรือคลึงเป็นเส้นยาวได้ จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในงานเครื่องปั้นดินเผา พวกอิฐสร้างบ้าน โอ่ง กระถางปลูกต้นไม้ แจกัน จานชาม
    
     ดินทราย
     ดินทราย เป็นดินที่มีเนื้อดินเป็นเม็ดขนาดใหญ่ที่สุด มีทรายปนอยู่มาก สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี ไม่อุ้มน้ำ มีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำมาก พืชจึงได้ธาตุอาหารน้อย พืชที่อยู่ชั้นบนดินทรายจึงขาดทั้งอาหารและน้ำ เป็นดินที่สามารถปลูกพืชได้ดีเป็นบางชนิด เช่น มันแกว มันสำปะหลัง มะพร้าว ต้นจาก และต้นกระบองเพชร โดยเฉพาะในทะเลทรายจะพบต้นกระบองเพชรเป็นจำนวนมาก
     ดินทรายในบางแห่งมีความละเอียดมาก และสะอาด จึงนิยมนำไปผลิตเป็นกระจำ แก้ว หรือเครื่องประดับพวกแก้วคริสตัลได้                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     
     ดินร่วน
     ดินร่วน เป็นดินที่มีเนื้อดินค่อนข้างละเอียด นุ่มมือถึงขนาดปานกลาง ยืดหยุ่นได้บ้าง มีการระบายน้ำได้ดีปานกลาง จัดเป็นเนื้อดินที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกมากที่สุด เนื่องจากดินร่วนมีความร่วนซุย เม็ดดินไม่เกาะตัวกันแน่นเกินไป จึงทำให้รากของพืชหายใจได้สะดวก ไม่สะสมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รากพืชเน่าเปื่อย นอกจากนี้ ดินร่วนยังมีซากพืชซากสัตว์ ซึ่งแรสภาพเป็นฮิวมัสในดิน นอกจากนี้ยังมีสัตว์ในดินจำนวนมาก ดินจึงมีสีคล้ำ เพราะมีธาตุอาหารซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชอยู่มาก จึงจัดได้ว่าเป็นดินดี เหมาะสมกับการเพาะปลูก เช่น ฟัก แตงกวา ผักกาด ไม้ดอกชนิดต่าง ๆ มะม่วง เงาะ ขนุน ลำไย ทุเรียน มังคุด มะเฟือง มะกรูด มะนาว
    
     ประโยชน์ของดิน
     ดินเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืช ดังนั้น ดิน จึงมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตอย่างมาก สิ่งมีชีวิตใช้ประโยชน์จากดินมากมาย เช่น
  1)  ใช้เพาะปลูกพืช ซึ่งพืชมีความจำเป็นในการดำรงชีวิตของคนและสัตว์ เช่น เป็นอาหาร คนใช้พืชสร้างที่อยู่อาศัย ใช้เป็นยารักษาโรค
  2) เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ เพราะสัตว์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนพื้นดิน เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย สุนัข เสือ แต่มีสัตว์บางชนิดอาศัยอยู่ในดิน เช่น มด ตัวตุ่น หนอน ไส้เดือนดิน กิ้งกือ ปลวก
  3) ใช้ทำของใช้ต่าง ๆ เช่น ถ้วย ชาม แจกัน โอ่งน้ำ กระถางต้นไม้ เครื่องแก้ว ลูกแก้ว สร้อย เซรามิก แป้งทาหน้า เครื่องประดับ ของเล่นสำหรับเด็ก
  4) ใช้สร้างและเป็นส่วนประกอบในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย เช่น อิฐ ทำมาจากดินเหนียวผสมกับทรายและแกลบ หรือขี้เลื่อยผสมกัน






Download - เนื้อหา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น